ilmadur เป็นแบรนด์ของแท่งแก้วที่ผลิตโดยบริษัทที่ถือได้ว่า เป็นบริษัทผลิตงานแก้วที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป ชื่อว่า TGI ย่อมาจาก Technische Glaswerke Ilmenau โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทนี้ผลิตออกมาจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ laboratory glassware, pressed glass (โดยเฉพาะพวกแท่งแก้ว หรือ sight glass และ engineering glass), tubular glass (เช่นพวก glass tube, capillaries และ glass rods) และผลิตภัณฑ์กลุ่มสุดท้ายคือ เครื่องแก้วในครัวเรือน หรือ household glassware โดยในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม pressed glass ซึ่งก็คือ ผลิตภัณฑ์จำพวกแท่งแก้ว หรือ sight glass นั่นเอง จากที่กล่าวข้างต้น sight glass ของ TGI ถือได้ว่าเป็น sight glass ระดับชั้นนำของโลกซึ่งมีชื่อเสียงมากในแง่ของคุณภาพ และความปลอดภัย โดย sight glass ที่ผลิตออกมาจะจำหน่ายภายใต้ตราสินค้า ilmadur ซึ่งผลิตขึ้นจากแก้วที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษที่เรียกว่า "I-420" borosilicate glass ซึ่งทำให้ sight glass มีความทนทานต่อทั้งความดัน และอุณหภูมิได้ในระดับสูง (high pressure and extreme temperature resistance)
เมื่อพิจารณาจากคุณลักษณะของ sight glass ของ ilmadur ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็น sight glass ที่รวมเอาคุณสมบัติที่ดีที่สุดของ sight glass ไว้ อันได้แก่ ปราศจากฟองอากาศในเนื้อของ sight glass, มี optical quality ดี ซึ่งก็คือ สามารถมองทะลุผ่าน sight glass ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะเป็น sight glass ที่หนา, มีความทนทานสูง โดยสามารถทนทานต่อสภาพการใช้งานหนักในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น สามารถใช้กับน้ำเดือด น้ำร้อนจัด สามารถใช้กับสภาวะการใช้งานที่มีค่าค่าความเป็นกรด และด่างสูง ทนทานต่อการเกิด thermal shock ซึ่งก็คือ สภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างเฉียบพลันได้โดยที่ sight glass ไม่แตก และไม่เกิดความเสียหายใดๆ ทั้งนี้ sight glass ของ ilmadur มีการผลิตออกมา 2 รูปแบบ คือ แท่งแก้วแบบกลม (round sight glass) ซึ่งจะผลิตตามมาตรฐาน DIN7080 และแท่งแก้วแบบแท่งยาว หรือ gauge glass หรือ long form sight glass
sight glass หรือ แท่งแก้ว ของ ilmadur จะสามารถใช้งานได้ที่อุณหภูมิประมาณ 300 องศาเซลเซียส มีค่า modulus of elasticity เท่ากับ 66 GPa หรือ 9,572,490.6 psi (pound per square inch)
หมายเหตุ: สำหรับค่าโมดูลัสของความยืดหยุ่นของยัง หรือ Young's modulus of elasticity เป็นค่าที่แสดงคุณสมบัติหนึ่งของวัสดุ โดยเป็นความสัมพันธ์ระหว่างความเค้น (strain) และความเครียด (stress) ของวัสดุ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อวัสดุถูกแรงกระทำจนค่าทั้งสองเพิ่มขึ้น โดยเมื่อค่าความเค้นเพิ่มขึ้น ค่าความเครียดก็จะเพิ่มขึ้นตามมาด้วย
อัตราส่วนของค่าความเค้นต่อค่าความเครียดนี้จะเป็นสัดส่วนแบบเชิงเส้น (linear) จนถึงค่าหนึ่ง จากนั้นค่าอัตราส่วนจะไม่เป็นเชิงเส้น (non linear ซึ่งวัสดุจะเริ่มเสียรูปร่างจากเดิม จนกระทั้งเกิดความเสียหาย หรือ ชำรุด) โดยวัสดุแต่ละชนิดจะมีค่าอัตราส่วนนี้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ประโยชน์ของค่าดังกล่าวจะบ่งบอกความแกร่งของวัสดุ โดยวัสดุที่มีค่าโมดูลัสของความยืดหยุ่นสูงจะสามารถทนทานต่อแรงกระทำ ความแกร่งของวัสดุ โดยวัสดุที่มีค่าโมดูลัสของความยืดหยุ่นสูงจะสามารถทนทานต่อแรงกระทำได้มากกว่าเสียรูปร่างได้ยากกว่าวัสดุที่มีค่าโมดูลัสของยังต่ำกว่า
ท่านสามารถสอบถามเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
อีเมลล์: kimtech@hotmail.com
โทร: 02-8107979
โทรสาร: 02-8107889, 02-1940018
มือถือ: 083-9730969, 081-9859669 และ 081-9210255
เว็บไซต์: http://www.kimtechgasket.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น